ประวัติคาโอรุ มิโตมะ ยอดนักเตะแห่งดินแดน ซามูไร
ประวัติคาโอรุ มิโตมะ ยอดนักเตะแห่งดินแดน ซามูไร สู่แนวรุกฝั่งซ้ายของทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง ไบรท์ตัน และเขาสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนัดล่าสุดพาทีมเอาชนะ ลิเวอร์พูลไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 โดยเจ้าตัวยิงในนาทีที่ 90+2 และตอนนี้มีหลายทีมที่สนใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีม เขาคือยอดนักเตะแห่งดินแดนซามูไร
วันเกิด 20 พฤษภาคม 2540
อายุ : 25 ปี
เกิดที่ : จังหวัดคานางาวะ ประเทศ ญี่ปุ่น
ตำแหน่ง : ปีกซ้าย
ส่วนสูง : ส่วนสูง 1.78 เมตร
ทีมชาติ ญี่ปุ่น
เกิดวันที่ 27 พฤษภาคม 1997 ปัจจุบันอายุ 25 ปี และได้เติบโตที่เมืองคาวาซากิ มิโตมะได้เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 10 ขวบ โดยเล่นตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้ายแต่สามารถไปเล่นฝั่งขวาได้เมื่อยามจำเป็น และเขาได้โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ไปเข้าตายาฮิโระ คาซามะ โค้ชในระดับเยาวชนของยอดทีมอย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล อายุไม่เกิน 18 ปี แต่ชุดใหญ่สามารถคว้าแชมป์เจลีกมาแล้วถึง 4 สมัยในปี 2017, 2018, 2020 และ 2021
และการเล่นของเขาโดดเด่นเป็นอย่างมากในรุ่นอายุ u18 ทำให้เขาได้เข้าร่วมมหาวิทยาลัยสึคูบะ ในปี 2016 ซึ่งเป็นหนึ่งโรงเรียนที่ปั้นนักเตะระดับเยาวชนส่งยอดทีมในเจลีกอย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล ในฟุตบอลอาชีพต่อไป เขาเล่นฟุตบอลได้อย่างโดดเด่นจนทำให้ได้รับทุนเรียนฟรีในระดับปริญญาตรีจนจบจากคณะพละศึกษาอีกด้วย
มิโตมะได้พาทีมมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นคว้าแชมป์ การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกถึง 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2017 และปี 2019 ต่อมาในปี 2020 เขาได้พาทีม คาวาซากิ ฟรอนตาเล คว้า 2 แชมป์ ได้แก่ แชมป์เจลีก และแชมป์เอ็มเพอเรอร์คัพ โดยเขาลงเล่นไปทั้งหมด 37 เกมรวมทุกรายการ ยิงไปได้ทั้งหมด 18 ลุก และในปี 2021 เขาลงเล่นให้ทีมไปทั้งหมด 24 เกม ยิงไปทั้งหมด 12 ลูก และสามารถคว้าแชมป์ เจแปนนิส ซูเปอร์ คัพ มาอีกหนึ่งรายการ
ต่อมาเข้าได้ย้ายมาร่วมทีมไบรท์ตัน หลังจากที่กุนซือของทีม ได้เห็นผลงานการเล่นของเขาในตอนที่เขาอยู่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล โดยค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้อยู่ที่ 2.5 ล้านยูโร และไบร์ทตันได้ปล่อยให้ ยูนิยง แซงต์ กิลลุส ยืมตัวในระยะเวลา หนึ่งปี และเขาก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนเกือบพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ได้เพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์เท่านั้น ทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติครั้งแรก และตอนนี้ เขาก็โชว์ฟอร์มกับไบร์ทตันได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ค่าตัวเขาพุ่งถึง 10 เท่า หรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว
ติดตามข่าวเพิ่มเติม : ประวัตินักฟุตบอล
ติดตาม Facebook fanpage :: Footballdaily365
