Footballdaily365

ประวัติ ทาคูมะ มินานิโนะ กองกลางตัวรุกเลือดซามูไร

ประวัติ ทาคูมะ มินานิโนะ

ประวัติ ทาคูมะ มินานิโนะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีดีลที่กลายเป็นที่ฮือฮามากหลังจากที่หงส์แดงลิเวอร์พูลได้ทำเซอร์ไพรส์ว่าพวกเขาได้จัดการคว้าตัวแนวรุกทีมชาติญี่ปุ่น มีนามว่า ทาคุมิ มินามิโนะ นักเตะจากทีม เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก หลังจากที่ทีมลิเวอร์พูลได้ยลฟอร์มของเขาในเกมที่พบกันในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 2019-2020 วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทราบประวัติแบบทุกซอกทุกมุมของ ทาคุมิ มินามิโนะ กัน ไปชมกันได้เลย

ชื่อเต็ม : ทาคุมิ มินามิโนะ (Takumi Minamino)

เกิดเมื่อ ; 16 มกราคม 1995 (อายุ 25 ปี)

สัญชาติ : ญี่ปุ่น

สังกัดสโมสร : ลิเวอร์พูล

เท้าที่ถนัด ; ขวา

ส่วนสูง : 1.74 ม.

ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก, กองกลางตัวกลาง

ชีวิตในวัยเด็ก

ประวัติ ทาคุมิ มินามิโนะ เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม ปี 1995 ที่เมือง อิซิมิซาโนะ ในจังหวัดโอซากะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น บิดาของ ทาคุมิ ถือว่าเป็นสุดยอดคุณพ่อเลยทีเดียว เขาจัดตารางและวางแผนทุกอย่างให้กับลูกชายของเขาทุกเช้า และมักจะติดตามไปชมลูกชาย ทุกนัดที่ลงแข่งขันตั้งแต่เด็กจนโต และยังคอยให้คำแนะนำ ทาคุมิ อยู่ตลอด จนทำให้ทั้งคู่สนิทกันอย่างมาก

ทาคุมิ มินามิโนะ ยังมีพี่ชายอายุมากกว่าเขาอยู่ 3 ปี มีชื่อ เคนคะ ซึ่งสวนทางกับ ทาคุมิ อย่างมาก เพราะพี่ชายของเขาแทบจะไม่สนใจเรื่องฟุตบอลเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ดี เคนตะ ก็คอยกระตุ้น ทาคุมิ ไม่ต่างจากพ่อของเขา ซึ่งก็เป็นผลดี และทำให้ ทาคุมิ มินามิโนะ มีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างมากในเส้นทางสายฟุตบอล

ประวัติ ทาคูมะ มินานิโนะ

ในระดับเยาวชน

ทาคุมิ มินามิโนะ ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของมัธยมเหมือนนักเตะส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น และทีมที่เขาอยู่คือทีม โคคุโกคุ และหลังจากนั้นไม่นานเขาด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีอย่างสม่ำเสมอทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรฟุตบอล เซเรโซ โอซาก้า และได้เชิญให้เจ้าตัวเข้าไปทดสอบฝีเท้ากับทีม U-15 ของสโมสรและผ่านการคัดตัวเข้าทีมได้อย่างไม่ยากเย็น

เขาใช้เวลาฝึกฝีเท้าอยู่กับทีมเยาวชนของทีม เซเรโซ โอซาก้า เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2007-2012 จนในที่สุดเขาก็ขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ของทีมได้สำเร็จ

ในระดับอาชีพ

มินามิโนะ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ของ เซเรโซ ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในปี 2013 เขาลงสนามให้กับ เซเรโซ ไป 42 นัด และยิงได้ 8 ประตู ในตำแหน่งปีกซ้ายของทีม ซึ่งหลักจากจบฤดูกาล 2014 เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก ก็ได้จัดการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม แม้ในปีนั้น เซเรโซ จะต้องตกชั้นจากลีกสูงสุด

กองกลางตัวรุกเลือดซามูไร

และแน่นอนว่า มินามิโนะ กลายเป็นแข้งที่อายุน้อยที่สุดของทีม เซเรโซ ที่ถูกปล่อยตัวไปเล่นในยุโรป ด้วยวัยเพียง 19 ปี บางสื่ออาจจะมองว่าเร็วเกินไป แต่ทาง เซเรโซ มีเหตุผลอย่างชัดเจนที่ปล่อยตัวเขาไปอยู่กับทีม ซัลซ์บวร์ก เนื่องจากทีมดังจากลีกออสเตรีย เป็นทีมที่มีระบบบริหารคล้าย ๆ กัน คือการสร้างนักเตะเพื่อขายต่อให้กับทีมสโมสรที่ใหญ่กว่า

กองกลางตัวรุกเลือดซามูไร

มินามิโนะ ลงสนามให้กับ ซัลซ์บวร์ก อย่างสม่ำเสมอจนทำให้เขามีพัฒนาการขึ้นแทบทุกปี แม้เขาจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่เฉลี่ยการทำประตูและการลงสนามของเขา ทำได้ดีอย่างมาก เฉลี่ย 10 ประตู ต่อ 1 ปี นอกจากนี้เขายังเริ่มปรับตัวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและเรื่องอาหารการกินได้อย่างรวดเร็ว

กองกลางตัวรุกเลือดซามูไร

มินามิโนะ อยู่กับทีม เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก เป็นเวลา 5 ปี จนเมื่อปลายปี 2019 ทั้งสื่อจากอังกฤษและคนในลงการฟุตบอลและทีมซัลซ์บวร์กได้ออกมายืนยันว่า มินามิโนะ กำลังจะกลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่จะได้ย้ายเข้าไปสู่ทีม ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ยุโรป ในปีนั้น หลังจากที่หงส์แดงได้เห็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ มินามิโนะ ในรอบแบ่งกลุ่ม และนัดที่ทั้งคู่พบกัน และเขาก็เป็นคนทำประตูได้ด้วย ในนัดที่พบกันในสนาม แอนฟิลด์

สุดยอดกองกลางแห่งยุคของญี่ปุ่น

และในที่สุด มินามิโนะ ก็ได้ย้ายเข้าสู่ทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงตลาดเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 7.25 ล้านปอนด์ มินามิโนะ ได้ออกมาเผยว่า ชินจิ คากาวะ เป็นส่วนสำคัญในการทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาซบทีมลิเวอร์พูล เขาเผยว่า เขาได้ปรึกษา คากาวะ ก่อนจะติดสินใจย้ายมาเล่นในแอนฟิลด์ เนื่องจากรุ่นพี่ในทีมชาติเคยร่วมงานกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในทีมโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ มาก่อน ปัจจุบันเจ้าตัวได้เล่นให้ทีมหงส์แดงไปแล้ว 18 นัด และทำได้ 5 ประตู ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่เลวเลยทีเดียว

สุดยอดกองกลางแห่งยุคของญี่ปุ่น

จากลีกที่อันดับ 1 ของเอเชีย และในตอนนี้ ทาคุมิ มินามิโนะ ได้ย้ายมาเล่นในลีกที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และยังเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกของทีมลิเวอร์พูล อีกด้วย เราต้องมาติดตามดูกันว่า นักเตะสายเลือกซามูไรคนนี้จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน จะประสบความสำเร็จเหมือนกับพี่ร่วมทีมชาติอย่าง ชินจิ คากาวะ และ ชินจิ โอกาซากิ ที่ไปถึงแชมป์พรีเมียร์อังกฤษได้หรือไม่ เราต้องตามให้กำลังใจกันต่อไปและเราเชื่อว่า การที่เขาได้เข้ามาอยู่กับทีมที่กำลังฟอร์มยอดเยี่ยมอย่างหงส์แดงคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอนที่เขาจะคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

ติดตามข่าวกีฬา :: ประวัตินักบอล

Facebook Fanpage ::  footballdairy365

error: Content is protected !!