ประวัติสนามคัมป์นู สโมสรบาร์เซโลนา FC BARCELONA FOOTBALL CLUB

ประวัติสนามคัมป์นู สโมสรบาร์เซโลนา ยุคเริ่มต้นของ สโมสรบาร์เซโลนา เล่นที่สนามกัมเดลาอินดุสเตรีย ซึ่งเป็นเพียงสนามกีฬาเอนกประสงค์ที่หลาย ๆ กีฬามาใช้พื้นที่นี้ร่วมกัน ยังไม่มีสนามสำหรับเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียว มีความจุของจำนวนผู้ที่สามารถเข้าชมได้เพียงแค่ประมาณ 10,000 คน ต่อมาในปี ค.ศ.1922 มีกระแสคนดูเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 2 เท่า เป็นจำนวน 20,000 คน ทำให้สโมสรบาร์เซโลนามีความคิดที่จะสร้างสนามกีฬาให้ใหญ่กว่าเดิม จึงเกิดสนามกัมเดเลสสกอต์เกิดขึ้น การขยายพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้สนามใหม่สามารถจุคนได้ถึง 20,000 คน ดูเหมือนความนิยมในการ ดูฟุตบอล ของบาร์เซโลน่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลก็ขยายเติบโตไปตามความนิยมด้วย ความสมบูรณ์ของฟุตบอลไม่ได้มีแต่นักเตะ กับลูกบอล แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบในการดูฟุตบอลชอบดูไปมากขึ้น นั่นคือการดูบอลแบบติดขอบสนาม

หลังจากสงครามกลางเมืองสเปนจบสิ้นลง ผู้คนอยู่ในช่วงที่ต้องการความบันเทิง เพื่อกลับมาสู่การใช้ชีวิตปกติ ทำให้มีการขยับขยายอัฒจันทร์ ประวัติสนามบาร์เซโลนา ฝั่งทิศใต้เพิ่มขึ้นอีกในปี ค.ศ.1946 และในปีค.ศ.1950 ก็ทำการขยายฝั่งทิศใต้อีกครั้ง หลังจากนั้นสนามกัมเดเลสสกอต์สามารถจุคนได้ถึง 60,000 คน

คราวนี้ สนามคัมป์นู จึงเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1954  วางศิลาฤกษ์ก้อนแรก โดยมีผู้ว่า เฟลีเป อาเซโด โกลังกา ทำพิธิโดยอาร์ชบิชอปแห่งบาร์เซโลนา เกรโกเรียว โมเดรโก โดยใช้เวลาสร้างถึง 3 ปี ใช้ค่าก่อสร้างไปทั้งหมดประมาณ 288 ล้านเปเซตา เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ถึง 366% ถึงแม้จะเกินงบการก่อสร้าง แต่นักลงทุนมองเห็นโอกาสที่จะทำกำไรได้มากขึ้น และเร็วยิ่งขึ้น จึงไม่หยุดการลงทุนในการสร้างสนาม แต่เป็นที่น่าเสียดายหลังจากต่อเติมเสร็จในครั้งนี้ สนามเลสสกอตส์ก็ไม่สามารถขยับขยายได้อีกเพราะหมดงบประมาณ

แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อความสำเร็จในการคว้าแชมป์ในลาลีกาสเปนได้ ติดต่อกัน 2 ปี ค.ศ.1948-1949 รวมถึง ลัสโซล คูบาลาได้เข้ามาร่วมเซ็นสัญญากับสโมสรบาร์เซโลนา และเขาได้ยิงประตูให้กับสโมสรบาร์เซโลน่า ไป 196 ประตู จาก 256 นัดที่ลงเล่น

ในปี ค.ศ.1950  ยิ่งทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาดูกันมากขึ้น รายได้ที่ได้จากการขายบัตรก็มากขึ้นตามไปด้วย ทำให้สโมสรสามารถวางแผนที่จะสร้างสนามใหม่ได้อีกครั้ง และในปี ค.ศ.1980 มีการออกแบบสนามใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของยูฟ่าสโมสรได้ไอเดียหาเงินมาสร้างสนามใหม่โดยการที่จะทำการสลักชื่อบนหิน หากผู้ใดทำการบริจาคเงินให้กับสโมสร แนวคิดนี้ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยมีผู้คนมาหลายพันคนให้ร่วมให้กับสนับสนุน แต่ต่อมากลายเป็นปัญหา เมื่อสื่อข่าวในมาดริด ได้มาเห็นหินก้อนหนึ่งที่สลักชื่อ ประธานของเรอัลมาดริดและผู้สนับสนุนจอมพลฟรังโกชื่อ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต

ต่อมาในการเตรียมงานสำหรับกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1992 ได้มีการเพิ่มที่นั่งอีก 2 แถวบริเวณเหนือแนวหลังคาเดิม ปัจจุบันสนามจุคนได้ถึง 99,354 คน แต่ถ้าเป็นในเกมแชมป์เปี้ยนลีกจะลดลงเหลือ 96,636 คน ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของยูฟ่าถือเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปนี่ถ้าไม่มีกฎความปลอดภัยสงสัยสร้างให้ใหญ่ไปเรื่อยๆ จนคนที่เข้ามาดูเกินหลักแสนได้

ปัจจุบัน สนามบอล สามารถจุคนในสนามได้ถึง 99,354 คน และจากนี้ไปจนถึงอนาคต เราต้องมาดูกันว่า สนามคัมป์นู จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมมากเพียงใด จากเดิมสนาม ความใหญ่คงไม่สามารถทำให้ใหญ่ขึ้นได้ เพราะด้วยข้อจำกัดด้านความปลอดภัย แต่สิ่งที่จะน่าจะเป็นความประทับใจให้กับผู้ที่ได้เข้ามาชม คงเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ก็ทำให้ทุกสิ่งพัฒนาตามไปด้วย และคงไม่มีแฟนบอลคนไหนหรือใครจะปฎิเสธได้ว่าปัจจุบัน สนามคัมป์นู ของ บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นสนามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป

อ่านข่าวฟุตบอล :: เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ
ติดตาม Facebook fans page :: Footballdaily365