Footballdaily365

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือคนใหม่แกะกล่องของ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ตัดสินใจอำลากลาสโกว์เซลติก จ่าฝูงสกอตติชพรีเมียร์ลีก แล้วตอบตกลงรับงานกุมบังเหียน เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ได้ตกลงทำสัญญาร่วมกับเลสเตอร์ ยาวไปจนถึงปี 2022 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเขาประสบความสำเร็จมากมายกับเซลติก เพื่อให้เขาได้ปรับหวนคืนสู่วงการลูกหนังเมืองผู้ดีอีกครั้ง หลังเคยสร้างชื่อกระฉ่อนให้กับลิเวอร์พูลได้รองแชมป์ ปี 2013-2014

ร็อดเจอร์ส เริ่มอาชีพโค้ชโดยคุมทีมให้กับ เชลซี ชุดเยาวชนเมื่อปี 2004 หลังจากที่อาชีพค้าแข้งของเขาไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นนัก หลังจากนั้นเขาก็ได้ทำหน้าที่ให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อถูก วัตฟอร์ด ที่ในเวลานั้นยังเล่นอยู่ใน แชมเปี้ยนชิพ ดึงตัวไปคุมทีม โดยมีภารกิจสุดหินคือการพาทีมรอดพ้นการตกชั้นให้ได้ สุดท้ายเขาก็ทำได้จริงๆทีมแตนอาละวาดที่จมอยู่โซนท้ายตารางในเดือนมกราคม ทำอันดับพรวดๆขึ้นมาจบที่ 13 เฉย

ภายหลังจากบรรลุผลสำเร็จสำหรับการคุมทีม วัตฟอร์ด เขาก็ได้งานใหม่ที่ เร้ดดิ้ง เมื่อปี 2009 เมื่อ สตีฟ ค็อปเปลล์ กุนซือคนก่อนได้ลาออกจากตำแหน่งไป จึงทำให้ ร็อดเจอร์ส ได้โอกาสหวนกลับมาทำงานให้กับสโมสรที่เขาเคยค้าแข้งด้วย แต่แม้ว่าจะเริ่มงานด้วยผลการแข่งขันที่ดี แต่ว่าในระยะยาวเขาก็จำต้องเจอกับปัญหาฟอร์มการเล่นของทีมที่ย่ำแย่ต่อเนื่อง ทำให้คุมทีมได้เพียงแค่ 6 เดือนก็ต้องแยกทางกันไป

เลสเตอร์ ซิตี้

             โดยตัวเขายอมรับว่า การได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเสื้อทีมของทีมคิงเพาเวอร์สเตเดียม เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เขาเลือกเรางานนี้ โดยเขากล่าวว่า “ ผมมีเหตุผลมากมายรองรับเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่เพราะอยากอำลาเซลติก เพราะเซลติกเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ผมรักการทำงานกับนักเตะที่นั่น แต่เราร่วมงานกันจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เมื่อมีโอกาสได้คุยกับเลสเตอร์ ทำให้ผมตระหนักได้ว่าบางทีตอนนี้ ผมประสบความสำเร็จ และ นำพาเซลติก ไปได้ไกลที่สุดเท่าที่ผมทำได้แล้ว รายการที่ผมได้คุยกับเขาทำให้ผมได้เห็นถึงความทะเยอทะยานของพวกเขา รวมทั้งการเติบโตของสโมสร และเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับผม ในการได้ทำงานร่วมกับนักเตะเหล่านี้ผมว่าคงจะเป็นเรื่องดีมากๆ”

และเขายังกล่าวถึงสิ่งที่เขาคาดหวังในตัวลูกทีมอีกว่า “ สิ่งที่ผมมักจะพูดอยู่เสมอ นั่นก็คือความทุ่มเท และ ทัศนคติเชิงบวก นักเตะหลายคนอาจเคยทำผิดพลาด แต่เขาต้องลืมเรื่องพวกนั้นไปให้ได้ เป้าหมายหลักของผมก็คือ จะขอให้ลูกทีมเล่นด้วยความทุ่มเท ตามแบบแผน และ ต้องมีทัศนคติที่ดีด้วย ผมอยากให้เขาเล่นเกมบุกที่ดุดันทั้งตอนที่มีบอลและไม่มีบอล” หน่วยงานที่เป็นการส่งข้อความไปยังเตะทุกคน เมื่อเราได้มีเวลาร่วมงานกัน เราจะปลูกฝังแนวคิดเกี่ยวกับเทคนิคที่ผมต้องการ

อ่านข่าวอื่นๆ : คลิ๊ก

สมัครสมาชิกรับข่าวสารตลอด 24 ชม. : https://line.me/R/ti/p/%40ufa365v2

error: Content is protected !!