Footballdaily365

ชื่อเต็ม : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah)

วันเกิด: 15 มิถุนายน ค.ศ. 1992 (25 ปี)

เกิดที่ : บาสยูน, ประเทศอียิปต์

สัญชาติ : อียิปต์

ส่วนสูง : 175 เซนติเมตร

ตำแหน่ง : กองหน้า

คู่สมรส: Magi Salah (สมรส พ.ศ. 2556)

ประวัติส่วนตัว

ซาลาห์ เขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์และพรแสวงเริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกให้กับชุดเยาวชนของ เอล โมคารูน ทีมในลีกของอียิปต์ก่อนที่เจ้าตัวจะแสดงศักยภาพและพัฒนาตัวเองออกมาเรื่อยๆจนไปเตะตาแมวมองของทีม บาเซิ่ล ยอดทีมในศึกสวิตเซอร์แลนด์หลังจากนั้นเจ้าตัวก็โชว์ได้สะเด่าซะเหลือเกินจนย้ายไปอยู่หลายลีกหลายทีมด้วยกันและตอนนี้ ซาลาห์ ได้กลายเป็นแข้งคนสำคัญของสาวก “เดอะ ค็อป” (หงส์แดง)ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

ในปี(2006/2012) หลังจาก ซาลาห์ ได้พัฒนาตัวเองจากทีมชุดเยาวชนของเอล โมคารูน อยู่ถึง 4 ปีและโอกาสของเขาก็ได้มาถึงในการโลดแล่นบนลีกสูงสุด เมื่อเขาได้ลงประเดิมสนามในวันนี้ 3 มิถุนายน 2010 โดยลงมาเป็นตัวสำรองในเกมที่เสอมกับ เอล มันซูร่า 1-1 ซึ่งจากการลงสนามในเกมวันนั้นเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสในการลงสนามมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดเจ้าตัวก็พิสูจน์ตัวเองโดยทำประตูแรกในเกมลีกได้สำเร็จ

และในฤดูกาล 2011-2012 เขาได้สร้างความมันใจให้กับทีมและตัวเขาเองในตอนนั้นกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างดีแต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อมีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 74 รายและบาดเจ็บระนาวถึง 500 จึงส่งผลให้สมาคมฟุตบอลอียิปต์ตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันทีงหมดในซีซั่นนั่นเอง

 

ในฤดูกาลต่อมา (2013/14)

ซาลาห์ เริ่มต้นซีซั่นใหม่ด้วยการคว้าแชมป์อูเรน คัพ ซึ่งเป็นการพบกันของแชมป์ลีกและแชมป์บอลถ้วยนั่นเอง ผลงานส่วนตัวของ ซาลาห์ ในฤดูกาลใหม่นี้ค่อนข้างดีเนื่องจากเจ้าทำประตูได้เรื่อยๆและฟรอม์ไม่มีตกอย่างต่อเนื่องแต่ดันมีปัญหาในการไปเยือน มัคคาบี้ เทล อาวีฟ ทีมจากอิสราเอลที่ ซาลาห์ ดันไม่ได้จับมือกับผู้เล่นเจ้าบ้านเนื่องจากช่วงนั้นมีปัญหาเรื่องเชื้อชาติมาเกี่ยวข้องด้วยจน ซาลาห์ ถูกจับตามองเป็นพิเศษก่อนที่ต้นสังกัดอย่าง บาเซิ่ล ต้องเรียกตัวมาทัศนคติแต่เรื่องก็จบได้ดี

 

ซึ่งผลงานเด่นๆสำหรับ ซาลาห์ ดันเป็นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่โชว์ฟอร์มเข้าตายักษ์ใหญ่ของยุโรปและกลายเป็นเชลซี ยอดทีมจากศึกพรีเมียร์ ลีก ที่หมายตัวดาวเตะอียิปต์ไปร่วมทีม

 

 

ปี (2013/14)

26 มกราคม 2014 “สิงห์บลูส์” เชลซี ได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาปิดดีล ซาลาห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่าตัวประมาณ 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 478 ล้านบาท) และนับว่า ซาลาห์ ทำประวัติศาสตร์เป็นนักเตะอียิป์คนแรกที่ย้ายมาร่วมทีมเชลซี โดยลงประเดิมนัดแรกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2014 ในเกมที่เอาชนะนิวคาสเซิ่ลไปแบบขาดลอย 3-0 ก่อนที่เจ้าตัวสร้างประตูแรกได้ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของออสการ์ ในศึก “ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์” ที่เอาชนะอาร์เซน่อล ไปแบบขาดลอย 6-0 ซึ่งถือว่าเป็นการประเดิมในศึกพรีเมียร์ ลีก ได้ดีเลยสำหรับนักเตะชาวอียิปต์

 

ฤดูกาล(2014/2015)

ก่อนเริ่มซีซั่น ซาลาห์ มีปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องทางการทหารจนเจ้าตัวต้องกลับบ้านเกิดทำให้ซาลาห์ ได้ลงเล่นน้อยและเป็นตัวสำรองบ่อย จึงต้องเก็บของย้ายไปย้ายไปอยู่ ฟิออเรนติน่า ทีมจากศึกเซเรีย อา ด้วยสัญญายืมตัวนั่นเอง ซึ่งหลังจากย้ายไปอยู่ในประเทศอิตาลีเจ้าตัวก็ได้โอกาสลงสนามมากขึ้นและเจ้าตัวขอเลือกหมายเลข 74 เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว.. ใจพี่แกหล่อจริงๆ และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ลงประนัดแรกให้กับฟิออเรนติน่าและระเบิดฟอร์มซัดประตูแรกได้ทันที แต่หลังจากจบฤดูกาล “ฟิออเรนติน่า” พยายามจะเซ็นสัญญาแบบถาวรแต่เจ้าตัวเลือกปฎิเสธและตัดสินใจย้ายซบ โรม่า คู่แข่งร่วมลีกซึ่งทำให้ฟิออเรนติน่าถึงกับช็อค

 

ส่วนในปี(2015/16)

เขาเล่นเหมือนว่าเขายังไม่ได้เอาจริงกับทีมที่ผ่านมาโดยผลงานส่วนตัวของ ซาลาห์ ในการใส่เสื้อโรม่า โดยเจ้าตัวจัดการซัดไปทั้งหมด 15 ตุงและอีก 6 แอสซิสต์พร้อมได้รับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรไปครองแบบไม่มีใครค้าน

 

 

และ (2016/17)

ลิเวอร์พูล จ้องฉกไปร่วมทีมด้วยและ “หงส์แดง” ก็สำเร็จด้วยการทำข้อตกลงกับ โรม่า สูงถึง 42 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1827 ล้านบาท) และเป็นการทุบสถิติสูงสุดของสโมสรด้วยและ ซาลาห์ กลายเป็นนัดเตะอียิปต์คนแรกของลิเวอร์พูล ด้วย ซึ่งหลังจากเจ้าตัวย้ายกลับมาค้าแข้งที่อังกฤษอีกครั้งก็โชว์ฟอร์มได้สมราคาสถิติของสโมสรเสียจริงๆด้วยการนำเป็นดาวซัลโวเดี่ยวๆของศึกพรีเมียร์ลีกและปฎิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้ ซาลาห์ คือผู้แบกความหวังของสาวก “เดอะ ค็อป” อย่างแท้ทรู

 

ในวันที่ 23 มิถุนายน 2012 เขาได้ทำสร้างประตูแรกให้กับตัวเองในช่วงทัวร์ปรีซีซั่นด้วยการยิงประตูใส่สเตอัว บูคาเรสต์ นั่นเอง ซึ่งเป็นเกมสำหรับปีกตัวจี๊ดสัญชาติอียิปต์ก็คือการลงประเดิมในถ้วยหูใหญ่อย่างศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบคัดเลือกในการพบกับโมลด์ ตัวแทนจากลีกนอร์เวย์ซึ่งลงมาในฐานะตัวสำรอง หลังจากนั่นเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนตอนที่เล่นอยู่ในประเทศบ้านเกิด ด้วยศักยภาพทีมที่ยังต่อสู้ใครไม่ได้จึงส่งผลให้พวกเขาตกรอบในบอลยุโรปด้วยการพ่ายต่อเชลซี ไปด้วยสกอร์รวม 2-5 อาจฟังดูแย่แต่ส่วนผลงานในลีกยังคงเป็นที่หนึ่งเพราะว่าพวกเขาคว้าตำแหน่งแชมป์ลีกมาครองได้นั่นเอง    ซาลาห์ในปี (2012/2013)กับบาเซิ่ลหลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวสิ้นสุดลงเหมือนเป็นดวงของตัวเขาที่ในตอนนั้นทางศึกสวิต ซูเปอร์ลีก อย่าง บาเซิ่ล ได้เดินทางมาเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติอียิปต์ ชุดยู-23 ซึ่งซาลาห์ มีชื่ออยู่ในชุดนี้ด้วยโดยเจ้าตัวได้โอกาสลงเล่นในช่วงครึ่งหลังและโชว์ฟอร์มได้แบบโด่ดเด่นและทำประตูไปถึงสองลูกซึ่งเกมนั้นจบลงที่ อียิปต์ ชุดยู-23 เอาชนะไปได้แบบสุดมัน 4-3 และหลังจากจบเกมดังกล่าวทางสบอร์ดบริหารของบาเซิ่ลด้วยความประทับใจในการเล่น ไม่รอช้ารีบคว้าตัวเพชรเม็ดงามรายนี้เข้าสู่ทีมทันทีและประกาศคว้าตัวในวันที่ 10 เมษยน 2012 ด้วยการเซ็นสัญญาระยะยาวถึง 4 ปีด้วยกัน

 

อ่านข่าวฟุตบอล :: ประวัตินักกีฬา

ติดตาม Facebook fans page :: Footballdaily365

 

 

 

error: Content is protected !!